- 21 มิ.ย. 2563
พล.ท.นันทเดช สุดเอือมอีเว้นต์ นัดชุมนุมเพื่ออ่านรัฐธรรมนูญ ฉบับ 24 มิ.ย. 2475
จุดมาหลายหนแต่ยังทำให้ไฟการเมือง ไม่สามารถลุกโชนได้อย่างที่ตั้งใจ ด้วยหลาย ๆ เหตุผล โดยเฉพาะหลักคิดที่เป็นไปเพื่อประโยชน์เฉพาะกลุ่ม อย่างพรรคอนาคตใหม่ในอดีต จนถึงมาถึงแกนนำคณะก้าวหน้า ที่มีจุดยืนชัดเจนในเรื่องการต่อต้านรัฐบาลคสช. โดยไม่สนใจเรื่องผลการทำงานและการแก้ไขปัญหาชาติ จนล่าสุดเลยเถิดไปถึงการโหมกระแสถูกคุกคาม ด้วยการหยิบฉวยกรณีการหายตัวไปของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ แอดมินเพจ “กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ” เป็นแนวทางการเคลื่อนไหวการข่าวผ่านโลกโซเชียล
ขณะเดียวกันกับกรณีที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 มิ.ย. นี้ทางเพจเฟซบุ๊ก "สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย - Student Union of Thailand" หรือ สนท. ก็เตรียมจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกครั้ง โดยระบุข้อความว่า "ราษฎรทั้งหลาย! พึงรู้เถิดว่าเราขอเชิญชวนร่วมฟังประกาศคณะราษฎรอีกครั้ง! 24 มิถุนายน นี้ 18:00 น. เป็นต้นไป ณ สกายวอล์คแยกปทุมวัน ให้รู้กันไปเลยว่าใครเป็นเจ้าของประเทศ
นอกจากนี้อีกกลุ่มที่จะมีการเคลื่อนไหวในกรอบเดียวกัน ก็คือทางด้าน เฟซบุ๊กเพจ "คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน l ครช." ได้โพสต์ข้อความ นัดหมายให้มีการรวมตัว ในวันที่ 24 มิ.ย. เช่นเดียวกัน โดยอ้างว่่าเป็นกิจกรรม ทวงคืนมรดกคณะราษฎร ทวงสัญญารัฐธรรมนูญประชาชน ที่บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา (สัปปายะสภาสถาน) เกียกกาย
น่าสนใจก็คือ ประจวบเหมาะกับข้อความโพสต์ของ นายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดี คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสมาชิกครช. ซึ่งโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "หมดเวลาที่จะปล่อยให้ประเทศอยู่ในมือพวกปล้นอำนาจประชาชน ถึงเวลาทวงถาม "รัฐธรรมนูญประชาชน" และความเป็นเจ้าของประเทศที่คณะราษฎรได้มอบไว้ให้กับประชาชน
ย้อนกลับไปกรณีการเคลื่อนไหวทางการเมือง วันที่ 24 มิ.ย. ก็เกิดขึ้นมาโดยตลอด เพียงแต่แนวคิดในระยะหลังจะถูกพูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้น สืบเนื่องจากการที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล มักจะปรารถถึงวันที่ 24 มิ.ย. 2475 หลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย ว่า ยังมีภารกิจคณะราษฎรที่ยังทำไม่สำเร็จ
และแม้ว่า นายธนาธร จะอ้างว่า เป็นเพียงการสื่อสารเรื่อง การสถาปนาอำนาจของพลเมืองยังไม่จบ ยังมีกลุ่มอภิสิทธิชนที่มีสิทธิ์เสียงเหนือกว่าประชาชนพลเรือนคนอื่น ยังมีเรื่องสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ ยังถูกคุกคาม ถูกละเมิด ไม่ใช่ภารกิจเพื่อการล้มล้างสถาบันฯ แต่ดูเหมือนว่าครหานี้ยังคงไม่อาจลบล้างออกไปจากกลุ่มแกนนำคณะก้าวหน้าได้ง่าย ๆ
ล่าสุด พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตรองผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ถึงสถานการณ์การเมืองที่จะเกิดขึ้นในระยะอันใกล้นี้ว่า "ผ่านฟ้าลีลาศ 1 .... วันนี้อ่านข่าวการนัดชุมนุมเพื่ออ่านรัฐธรรมนูญ ฉบับ 24 มิ.ย. 2475 บริเวณ 4 แยกปทุมวันของกลุ่มเด็กที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ บนสะพานผ่านฟ้า และคนแก่สีแดงขาประจำ คนกลุ่มนี้ ยังไม่รู้เลยว่ารัฐธรรมนูญฉบับที่จะเอามาอ่านนั้น เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ ในหลวงรัชกาลที่ 7 ทรงลงลายพระหัตถ์ ว่า "ชั่วคราว" เพราะขัดกับสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามที่ ในหลวงรัชกาลที่ 7 ได้ทรงตั้งพระทัยไว้
เนื้อความสำคัญ ที่คณะราษฎรเขียนไว้ว่า "ให้อำนาจคณะราษฎร แต่งตั้ง ส.ส.ได้เองตามใจ ตราบใดที่คนไทยยังไม่มีความรู้พอเพียง แต่ไม่เกิน 10 ปี" ซึ่งมันยาวนานเกินไป และยังไม่รู้ว่าในอนาคตคณะราษฏรจะต่ออายุเวลาครองอำนาจออกไปอีกหรือเปล่า??
หลังจากนั้นมาคณะราษฏร ก็รู้ว่ารัฐธรรมนูญชั่วคราวนั้น ถูกต่อต้านมาก ทั้งจากประชาชน และตัวบุคคลในคณะราษฏรเอง เพราะรัฐธรรมนูญฉบับที่เด็กจะเอาไปอ่านนี้ ร่างตามใจชอบ ไม่มีอะไรยึดโยงมาจากประขาขนเลย
คณะราษฎรจึงต้องยอมให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 (ฉบับวันที่ 10 ธันวาคม 2475) ขึ้นมาใหม่ ตามแนวทางของในหลวง รัชกาลที่ 7 แต่การขับเคลื่อนประชาธิปไตย ของคณะราษฎรก็ยังไปไม่รอด เมื่อเกิดการแย่งชิงอำนาจ ฆ่าฟันกันเอง ขึ้นมาภายในหมู่แกนนำของคณะราษฏร ถึง 14 ครั้งภายในเวลา 25 ปี ความล้มเหลวของคณะราษฏร ทำให้สภาพบ้านเมืองของไทยล้าหลังลงไปเรื่อยๆ
และเป็นต้นแบบของการทำรัฐประหารในสังคมไทย แล้วจะเอารัฐธรรมนูญฉบับนี้มาอ่าน ทำให้พวกพี่น้องคณะราษฏร เขาเดือดร้อนอีก
เรื่องเหล่านี้จะเขียนขยายความให้เห็นว่า การดำเนินงานของคณะราษฏรที่ไม่ได้เป็นที่พึ่งพาของประชาชน และทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งจะได้นำเสนอในตอนต่อไป โดยรายละเอียดทั้งหมดจะอยู่ในหนังสือเรื่อง "ผ่านฟ้าลีลาศ" ซึ่งจะออกจำหน่ายในกลางเดือนหน้า (กรกฎาคม 2563) ครับ (ตอนนี้เหตุการณ์14ตุลา16)"