ลูกสาวเหยื่อยาดองมรณะลั่น โกรธมาก คำขอโทษยังไม่มี ต้องยืมเงินทำศพพ่อ

ลูกสาวของ 1 ในผู้เสียชีวิตยาดองมรณะ ร้องสายไหมต้องรอดหลังพ่อเสียชีวิต ลูกๆต้องไปยืมเงินมาทำศพ รับโกรธมาก ตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่เคยได้รับแม้แต่คำขอโทษ

วันที่ 27 สิงหาคม 2567 จากคดียาดองเถื่อน นางสาวสุธิตา หรือ ปู อายุ 23 ปี ลูกสาวของนายปิติชัย สุจินดากุล อายุ 43 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิตเหยื่อยาดองมรณะ เข้าขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด เนื่องจากพ่อเสียชีวิตหลังจากดื่มยาดองเข้าไป แต่ไม่มีใครยื่นมือมาให้ความช่วยเหลือ ด้านภรรยาผู้เสียชีวิตอีกรายลั่น คนผสมเหล้าเลวมาก

 

ลูกสาวเหยื่อยาดองมรณะลั่น โกรธมาก คำขอโทษยังไม่มี ต้องยืมเงินทำศพพ่อ

 

นางสาวปู เล่าให้ฟังว่า พ่อแม่ของตนเองหย่าร้าง แยกทางกัน ตั้งแต่ตนเองยังเด็ก จนกระทั่งตนเองโตจึงพยายามตามหาผ่านทางโซเชียล โดยใช้เวลานานกว่า 12 ปี และมีโอกาสเจอหน้าพ่อครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยพ่อบอกว่าตอนนี้ตกงาน แต่ไม่ต้องห่วง พ่อสามารถเอาตัวรอดได้

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ก็ได้ส่งข้อความมาบอกว่าตอนนี้ได้มาทำแล้วที่ย่านคลองสามวา โดยตลอดระยะเวลาที่พ่อได้ทำงานที่ใหม่ พ่อก็ได้ซื้อยาดองแห่งหนึ่งที่อยู่ภายในซอยสามวา 1 ซึ่งเป็น 1 ใน 18 จุดเครือข่ายร้านยาดองที่รับส่วนผสมของ "เจ๊ปู" ไปขาย 

 

ลูกสาวเหยื่อยาดองมรณะลั่น โกรธมาก คำขอโทษยังไม่มี ต้องยืมเงินทำศพพ่อ

 

ต่อมาจนช่วงกลางเดือนสิงหาคม พอได้ส่งข้อความมาบอกว่า มีอาการเวียนหัว ตาพร่ามัว มองไม่ชัด ก่อนจะอาการทรุดลงและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ก่อนจะเสียชีวิตลงในวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งแพทย์สันนิษฐานการเสียชีวิตว่ามีเลือดออกในก้านสมอง และในโพรงสมองน้อย โดยหลังจากที่พ่อเสียชีวิตก็ไม่มีใครแสดงตัวออกมารับผิดชอบ และตนเองก็ไม่มีเงินที่จะจัดงานศพให้พ่อ จนทำให้ตอนนี้ต้องไปยืมเงินมาแล้ว 10,000 บาท สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองรู้สึกโกรธเจ้าของยาดองเป็นอย่างมาก และอยากให้เขามาแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้

สำหรับพิธีบำเพ็ญกุศลศพนายปิติชัย จะจัดขึ้นที่วัดกระทุ่มเสือปลา แขวงและเขตประเวศ กรุงเทพฯ

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เปิดเผยว่า ตนได้ประสานไปยังผู้กำกับการสน. มีนบุรี ให้พิจารณาเพิ่มการเพิ่มข้อกล่าวหา พยายามฆ่า ไปด้วย เพราะจากการที่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสถานที่ผลิตแล้วพบเมทิลแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม และเจ้าของยาดองก็รู้อยู่แล้วว่าเมทิลแอลกอฮอล์เป็นสารต้องห้าม พร้อมกับเร่งรัดให้มีการขยายผลว่าได้มีการจำหน่ายไปให้ใครบ้าง ซึ่งหลังจากนี้ ตนเองจะพาผู้เสียหายไปรับเงินเยียวยาที่กระทรวงยุติธรรม รวมทั้งจะให้ทนายความของเพจสายไหมต้องรอดรวบรวมหลักฐานฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายอีกด้วย

 

ลูกสาวเหยื่อยาดองมรณะลั่น โกรธมาก คำขอโทษยังไม่มี ต้องยืมเงินทำศพพ่อ

 

นอกจากนี้ยังมีภรรยาของ 1 ในผู้เสียชีวิตอีกราย เล่าทั้งน้ำตาว่า ตัวเองรู้จักกับสามีมา 20 ปี มีลูกด้วยกันสองคน ปกติแล้วสามีจะดื่มเบียร์และสุราอยู่แล้ว แต่ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์เลวร้าย ทั้งนี้ติดใจกับคนผลิตที่ใส่ส่วนผสมแล้วทำให้เป็นอันตรายกับคนกินเป็นจำนวนมาก โดยเมื่อวันที่ 21 ส.ค.67 สามีได้กินเหล้าเถื่อนแต่ยังไม่มีอาการ จนกระทั่งวันช่วงเช้าวันที่ 22 ส.ค.67 สามีได้มารับตัวเองที่ทำงานพร้อมเล่าอาการให้ฟังว่ามีอาการเมามาก เวียนหัวหน้ามืด จนกระทั่งตอนเย็นตื่นมาอาการยังไม่ดีขึ้น มีอาการอาเจียน เดินไม่ไหว หายใจเร็ว สายตาพล่ามัวมองไม่เห็น ยังสื่อสารรู้เรื่อง เมื่อไปถึงโรงพยาบาลหมอได้สอบถามว่ารับประทานอะไรมาเนื่องจากพบว่ามีเมทอลในร่างกายสูงทำให้เลือดเป็นกรด โดยยอมรับว่าที่ผ่านมาสามีมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน แต่ก็ไม่เคยมีอาการข้างเคียง จนกระทั่งล่าสุดมีอาการผิดปกติอย่างรุนแรงและถึงแก่ชีวิต

นางสาววนิดา กล่าวว่า ฝากถึงผู้ผสมเหล้าเถื่อนว่าเลวมาก อยากเจอหน้า และอยากจะถามว่าชีวิตคนทั้งคน ไม่น่ามาทดลองอะไรแบบนี้ หากเห็นแก่เงินตายไปก็เอาอะไรไม่ได้ ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ส่วนที่สามีเสียชีวิตยังทำใจไม่ได้ รู้สึกเศร้าและไม่รู้จะพูดอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้ขอจัดงานสามีให้เรียบร้อยก่อน ส่วนผู้เสียชีวิตอีกรายสามีได้รู้จักกัน เนื่องจากเป็นคนในพื้นที่ละแวกเดียวกัน แต่ไม่ได้นั่งกินร่วมวงเดียวกันซึ่งไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตอีกรายไปดื่มเหล้าเถื่อนจากพื้นที่ไหน เนื่องจากเสียชีวิตกันคนละโรงพยาบาล หลังจากนี้จะดำเนินการจะปรึกษากับทนายความ เพื่อรวบรวมผู้เสียหายในการฟ้องทางแพ่งกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป